เพราะเราต้องเลือกรองเท้าที่ใช่ก่อนที่ชอบ
1. เลือกซื้อรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ
รองเท้าผ้าใบอาจจะดูคล้ายๆ กันหมด และถึงแม้จะเป็นรองเท้าผ้าใบสำหรับออกกำลังกาย ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถใส่วิ่งได้ทุกแบบ เพราะวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ต้องลงน้ำหนักไปที่เท้าซ้ำๆ เป็นเวลานานรองเท้าวิ่งส่วนมากจะออกแบบมาเพื่อรับแรงกระแทกได้ดี และน้ำหนักเบา ดังนั้นในการเลือกซื้อรองเท้าควรเลือกเป็นรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะดีกว่าค่ะ
2. วิธีเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะกับประเภทฝ่าเท้าของเรา
ฝ่าเท้า (Foot Arch) ของแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกรองเท้าวิ่ง เราสามารถตรวจสอบประเภทฝ่าเท้าของเราเองได้โดยทำเท้าให้เปียก และวางเท้าลงบนกระดาษ วางให้เต็มฝ่าเท้า ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำเท้าออก เพื่อดูรอยเท้าของเราบนกระดาษค่ะ
โดยลักษณะของฝ่าเท้าแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
- เท้าปกติ (Normal Arch) ช่วงกลางของรอยฝ่าเท้าบนกระดาษ มีรอยคอดแต่ไม่มาก ประมาณครึ่งหนึ่งของฝ่าเท้า
- อุ้งเท้าสูง (High Arch) ช่วงกลางของรอยฝ่าเท้าบนกระดาษ มีรอยคอดเว้าชัดเจน แสดงว่าช่วงกลางของฝ่าเท้า ลอยจากสูงจากพื้น
- อุ้งเท้าต่ำ (Low Arch) ช่วงกลางของรอยฝ่าเท้าบนกระดาษแทบจะไม่มีรอยคอดเว้าเลย แสดงว่าช่วงกลางของฝ่าเท้าค่อนข้างแบนเกือบติดพื้น
- เท้าแบน (Flat Arch) ช่วงกลางของรอยฝ่าเท้าบนกระดาษจะไม่มีรอยคอดเว้าเลย แสดงว่าช่วงกลางของฝ่าเท้าแบนแนบกับพื้น ดังนั้นการเลือกรองเท้าวิ่งสำหรับผู้ที่มีลักษณะเท้าแบน ควรเลือกรองเท้าที่มีส่วนเสริมบริเวณอุ้งเท้า เพื่อให้ฝ่าเท้ามีส่วนเว้ามากขึ้นนั่นเอง

3. เลือกขนาดรองเท้าวิ่งให้พอดี
รองเท้าวิ่ง ที่เหมาะสมสำหรับการวิ่ง ควรเป็นรองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้า เพราะถ้าเลือกรองเท้าที่มีขนาดคับเกินไป หรือใหญ่กว่าเท้ามากเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดอุปสรรคขณะวิ่งได้
ดังนั้น ควรเลือกรองเท้าวิ่งที่มีขนาดพอดี โดยให้ปลายรองเท้า ยาวกว่านิ้วที่ยาวที่สุดประมาณครึ่งนิ้ว ด้านหน้ารองเท้าเหลือที่ว่างเล็กน้อย เพราะถ้าหากเราเลือกรองเท้าที่พอดีกับขนาดรองเท้าเราพอดี เมื่อวิ่งไปนานๆ แรงกระแทกจะทำให้นิ้วของเราชนรองเท้าไปเรื่อยๆ และเกิดอาการห้อเลือดที่เล็บได้
อีกเทคนิคในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง เราควรเลือกซื้อในช่วงเย็น เพราะช่วงเย็นเท้าของเราจะขยายเต็มที่จากการใช้งานมาทั้งวัน เพราะเนื่องจากเวลาที่เราวิ่ง เท้าจะขยายใหญ่ขึ้นนั่นเอง
4. เลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการวิ่ง
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นรองเท้าวิ่ง แต่รองเท้าวิ่งแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์นั้น ออกแบบมาเพื่อรองรับลักษณะการวิ่งและสภาพพื้นผิวเส้นทางที่วิ่งแตกต่างกัน
ดังนั้นควรพิจารณาก่อนว่า จะใช้สวมใส่เพื่อวิ่งแบบไหนเป็นหลัก เช่น เน้นวิ่งเร็ว เน้นวิ่งระยะทางไกล หรือเน้นวิ่งเทรล เป็นต้น
หากเน้นวิ่งระยะไกล ควรเลือกรองเท้าที่มีส่วนรองรับแรงกระแทก (Cushion) ที่ดี เพื่อซัพพอร์ตการวิ่งเป็นเวลานาน
หากเน้นวิ่งเทรล ซึ่งสภาพพื้นผิวในการวิ่งเป็นพื้นที่ขรุขระ รองเท้าสำหรับวิ่งเทรลจึงมีพื้นรองเท้าที่มีดอกยื่นออกมา เพื่อช่วยในการเกาะพื้นผิวและกันลื่น
5. รองรับแรงกระแทกได้ดี
เนื่องจากการวิ่งในแต่ละครั้งจะเกิดแรงกระแทกที่ฝ่าเท้าเป็นหลัก รองเท้าที่รับแรงกระแทกได้ไม่ดี อาจจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าหรือฝ่าเท้าได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องวิ่งระยะทางไกลเป็นเวลานาน
ดังนั้น รองเท้าวิ่งที่ดี ควรมีคุณสมบัติรองรับแรงกระแทกได้ดี มีการออกแบบพื้นรองเท้าที่หนานุ่ม ไม่ก่อให้เกิดอาการเมื่อย หรือเจ็บปวดขณะวิ่ง สวมใส่สบายขณะวิ่ง
6. รองเท้าน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี
น้ำหนักของรองเท้าวิ่ง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกรองเท้าวิ่งได้อย่างเหมาะสม ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการวิ่ง ไม่รู้สึกหน่วงเท้าขณะวิ่ง ทำให้สามารถวิ่งได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นในการเลือกรองเท้าวิ่งสักคู่ อย่าลืมลองสวมก่อนซื้อทุกครั้ง และลองวิ่งเหยาะๆ เบาๆ เพื่อเช็คว่ารองเท้าวิ่งนั้น มีน้ำหนักเหมาะสมสำหรับเราหรือไม่
และนอกจากน้ำหนักเบาแล้ว รองเท้าควรมีการระบายอากาศที่ดีด้วย เพราะการวิ่งระยะไกล หากรองเท้าไม่สามารถระบายอากาศได้อย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดปัญหาจากความอับชื้น ไม่สบายเท้า
รวมทั้งอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากการเสียดสีได้ เนื่องจากเมื่อเหงื่อออกที่บริเวณฝ่าเท้าและระบายอากาศได้ไม่ดี จะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างวิ่ง และเกิดอาการบาดเจ็บบริเวณฝ่าเท้าและนิ้วเท้าได้
7. มีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม
ปัจจัยส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บของเท้าขณะวิ่ง คือ ความยืดหยุ่นของรองเท้า เพราะรองเท้าที่มีความยืดหยุ่นในแบบที่พอดีกับสรีระของเท้า จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บได้
เช่น ไม่ทำให้ข้อเท้าพลิกได้ง่ายขณะวิ่ง
โดยคุณสามารถทดสอบความยืดหยุ่นของรองเท้าก่อนซื้อง่ายๆ ด้วยการจับปลายรองเท้างอขึ้นด้านบน เพื่อสังเกตว่ารองเท้ามีความยืดหยุ่นมากน้อยแค่ไหน หากปลายรองเท้ามีความแข็งมากเกินไป จะทำให้รองเท้าไม่ยืดหยุ่น และไม่รองรับสรีระของเท้าขณะวิ่ง
นอกจากเลือกรองเท้าวิ่งที่มีความยืดหยุ่นแล้ว ก็อย่าลืมเทรนกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงกันด้วย